
ในช่วงหลังเอกราชของอินเดียในปี 1947 ขณะที่ประเทศกำลังเฉลิมฉลองอิสรภาพจากการปกครองของอังกฤษ รัฐไฮเดอราบาดกลับกลายเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความขัดแย้ง เนื่องจากนิเซม เมียร์ ออสมาน อาลี ข่าน ผู้ปกครองรัฐไฮเดอราบาด ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับสหภาพอินเดีย และเลือกที่จะคงสถานะอิสระของตนเอง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด กลุ่มราซาคาร์ ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธมุสลิมภายใต้การนำของคาซิม ราซวี ได้เริ่มก่อเหตุความรุนแรงต่อประชาชนชาวฮินดูในพื้นที่ พวกเขาใช้การข่มขู่ การสังหาร และการกดขี่ข่มเหงเพื่อรักษาการปกครองของมุสลิมเหนือรัฐ ในท่ามกลางความโหดร้ายนี้ ราจิเรดดี้ ชายหนุ่มผู้รักชาติ ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม เขาเป็นชาวไร่ที่เห็นครอบครัวและชุมชนของตนถูกทำลายโดยกลุ่มราซาคาร์ ทำให้เขาตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มต่อต้านใต้ดินเพื่อปกป้องประชาชนของเขา การต่อสู้ของราจิเรดดี้นำไปสู่ความขัดแย้งอันดุเดือดระหว่างกลุ่มต่อต้านกับราซาคาร์ ในขณะที่รัฐบาลอินเดีย ภายใต้การนำของซาร์ดาร์ วัลลับไภย ปาเตล รัฐมนตรีมหาดไทย กำลังหาทางรวมรัฐไฮเดอราบาดเข้าสู่สหภาพอินเดีย เมื่อสถานการณ์ในไฮเดอราบาดเลวร้ายลง อินเดียจึงเริ่มปฏิบัติการทางทหารที่เรียกว่า “ปฏิบัติการโปโล” (Operation Polo) ในเดือนกันยายน 1948 กองทัพอินเดียเข้าสู่ไฮเดอราบาดเพื่อล้มล้างการปกครองของนิเซมและกำจัดกลุ่มราซาคาร์ ราจิเรดดี้และกลุ่มต่อต้านได้เข้าร่วมกับกองทัพอินเดียเพื่อช่วยปลดปล่อยประชาชนของพวกเขา การสู้รบเป็นไปอย่างรุนแรง และในที่สุด รัฐไฮเดอราบาดก็ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของอินเดีย เรื่องราวของ Razakar: The Silent Genocide of Hyderabad ไม่เพียงแต่เป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์ของอินเดีย แต่ยังสะท้อนถึงความโหดร้ายของสงครามและการต่อสู้ของประชาชนที่ต้องการเสรีภาพ ภาพยนตร์นำเสนอเหตุการณ์จริงที่ถูกลืมเลือนไปจากหน้าประวัติศาสตร์ พร้อมกับเน้นให้เห็นถึงความกล้าหาญของผู้ที่ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายและการเสียสละมากมายก็ตาม